เก็บภาษีที่ดินชะงัก เลื่อนไปใช้ปี 61
คลังถอดใจเลื่อนเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมกำหนดจะเริ่มเก็บภาษีในปี 2560 เลื่อนออกไปเดือน ม.ค. 2561
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินคงไม่สามารถเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีภาษี 2560 ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ แต่ทั้งนี้จะเร่งผลักดันให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในเดือน ม.ค. 2561 ซึ่งจะช่วยเพิ่มการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐ ทั้งนี้ เนื่องมาจากล่าสุดทางคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตีเรื่องกลับมายังกระทรวงการคลัง เพื่อให้กลับไปทบทวนในบางประเด็น เพราะมีการตีความไม่ตรงกัน เช่น การเรียกเก็บภาษีที่ดินเปล่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ควรแยกหรือรวมไว้ในการเก็บภาษีที่ดินชนิดอื่นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม การที่กระทรวงการคลัง แยกการจัดเก็บภาษีที่ดินที่ไม่ใช้ประโยชน์ออกมาและเก็บภาษีในอัตราสูงกว่าที่ดินใช้ประโยชน์นั้น เพราะต้องการที่จะให้มีการนำที่ดินว่างเปล่ามาใช้ประโยชน์มากขึ้น อีกทั้งมีผลต่อการลงทุนของประเทศด้วย
สำหรับอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ จะยกเว้นภาษีบ้านอยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ส่วนบ้านหลังที่สองเก็บตั้งแต่ล้านแรก จัดเก็บอัตรา 0.03-0.3% ที่ดินเกษตรเสียอัตรา 0.05-0.1% ขณะที่อาคารพาณิชย์ เสียภาษีเพดานสูงสุด 2% ส่วนที่ดินรกร้างเสียเพดานสูงสุด 5%
ทั้งนี้ หากมีการนำอัตราภาษีที่ดินใหม่มาใช้จะทำให้รัฐบาลมีรายได้การจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีในปีแรกเพิ่มขึ้น 38,318 ล้านบาท ซึ่งรวมภาษีในปีแรกประมาณ 64,290 ล้านบาท (จากเดิมเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน-ภาษีบำรุงท้องที่ได้ 2.6 หมื่นล้านบาท)
นายอภิศักดิ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนกฤษฎีกาในการแก้ไขกฎหมายให้ระบุความผิดโทษทางอาญาแก่ผู้ที่ปล่อยกู้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด ที่ต้องไม่เกิน 36% โดยระหว่างนี้ที่กฎหมายยังไม่มีผลบังคับใช้ อยากให้ผู้ที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบปรับวิธีการปล่อยกู้และปรับดอกเบี้ยให้อยู่ในอัตราไม่เกินกฎหมายกำหนด และให้เตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ระบบเป็นพิโกไฟแนนซ์ เพื่อให้ง่ายต่อการทำธุรกิจและถูกต้องตามกฎหมาย
Credit: Posttoday
11/22/2016 1:19:30 PM