ขั้นตอนรับเงิน "ประกันการใช้ไฟฟ้า"

ขั้นตอนรับเงิน "ประกันการใช้ไฟฟ้า"

เริ่มลงทะเบียนแล้วตั้งแต่วันนี้ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป สำหรับมาตรการ "คืนเงินประกันไฟฟ้า" ของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 1 บ้านที่อยู่อาศัย และประเภท 2 กิจการขนาดเล็ก จากฝ่ายผลิต ทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
เริ่มแล้ววันนี้ (25 มีนาคม 2563) เปิดลงทะเบียนรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืน จากผู้ให้บริการ ทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในช่องทางออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ และจะเริ่มคืนเงินตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติออกมาตรการมาตรการการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2563 ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ก็ได้เร่งหารือกับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ในเรื่องของหลักเกณฑ์ในการคืนเงินประกันดังกล่าวนี้
ทั้งนี้ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์นี้ ต้องเป็น "ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย" และ "ประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก" โดยจำนวนเงินที่ได้รับนั้น จะคำนวณจากตามประเภทของขนาดเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้อธิบายไว้ดังตารางนี้

ขั้นตอนการลงทะเบียน ดังนี้

1. ตรวจสอบสิทธิ์ และลงทะเบียน เริ่ม 25 มีนาคม 2563
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)

  • เว็บไซต์ https://dmsxupload.pea.co.th/cdp/
  • สแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้า (รอบเดือน มี.ค.)
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
  • แอปพลิเคชั่น MEA Smart Life
  • Facebook การไฟฟ้านครหลวง MEA
  • Twitter @mea_news
  • Line @meathailand
  • สแกน QR Code ในใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า (ตั้งแต่ 25 มี.ค.2563 เป็นต้นไป)
  • โทรศัพท์ 02-256-3333 (25 มี.ค.-29 มี.ค. 2563 เวลา 02.00-15.30)
  • ที่ทำการ กฟน.18 เขต (เริ่ม พ.ค.2563 เป็นต้นไป)
2. กรอกข้อมูลในระบบให้ครบถ้วน
  • ชื่อ - นามสกุล
  • หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า หรือหมายเลขบัญชีแสดงสัญญา (CA)
  • หมายเลขบัตรประชาชน
3. ระบุช่องทางการรับเงิน
  • บัญชีพร้อมเพย์ (Prompt Pay) เฉพาะผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนของผู้วางหลักประกัน
  • ธนาคารพานิชย์ ที่มีชื่อตรงกับผู้วางหลักประกัน (ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย)
  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส (จำนวนเงินไม่เกิน 50,000 บาท)
  • บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือรับเงินสด ณ สำนักงาน กฟภ.(เฉพาะ กฟภ.)
4. รอรับเงินประกันคืน เริ่ม 31 มี.ค.2563

การขอคืนเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้าของ การไฟฟ้านครหลวง
การไฟฟ้านครหลวง ก็เปิดให้ตรวจสอบสิทธิ์ และลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เช่นกัน แต่มีช่องทางเพิ่มมากขึ้น มีทั้งหมด 8 ช่องทาง ได้แก่
1.เว็บไซต์ www.mea.or.th
2.เฟซบุ๊ค การไฟฟ้านครหลวง MEA
3.แอพพลิเคชั่น MEA Smart Life
4.ทวิตเตอร์ @mea_news
5.ไลน์ @meathailand
6.สแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้า ซึ่งสามารถดูได้จากใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่จดเลขอ่านตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
7.โทรศัพท์เบอร์ 02-256-3333 จำนวน 50 คู่สาย ซึ่งส่วนนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม - 29 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.00-15.30 น. และในวันทำการ และสุดท้าย
8.ที่ทำการการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต แต่จะเปิดช่องทางนี้ในเดือนพฤษภาคม 2563 เนื่องจากเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับสิ่งสำคัญที่ต้องใช้ก็เช่นเดียวกันของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าไปตามช่องทางลงทะเบียนต่างๆ แล้ว ก็กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และสามารถเลือกช่องทางการคืนเงินได้ 3 ช่องทาง ได้แก่
1.พร้อมเพย์ (Prompt Pay) เฉพาะที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ของผู้วางหลักประกัน
  1. บัญชีธนาคารพาณิชย์ที่มีชื่อตรงกับผู้วางหลักประกันที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือธนาคารกสิกรไทย และ
3.เคาน์เตอร์เซอร์วิส (จำนวนเงินไม่เกิน 50,000 บาท)
ทั้งนี้สำหรับผู้วางหลักประกันที่มีปัญหา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูล สำหรับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เบอร์ 1129 และการไฟฟ้านครหลวง เบอร์ 1130
 
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้เปิด 2 ช่องทางในการตรวจสอบสิทธิ์ และลงทะเบียนขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ได้แก่
1.เว็บไซต์ https://dmsxupload.pea.co.th/cdp/
2.การสแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้า

โดยต้องเป็นใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่จดเลขอ่านตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้จะเริ่มตรวจสอบและลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 25 มีนาคม 2563
โดย 3 สิ่งที่สำคัญ และต้องนำไปใช้ ได้แก่ ชื่อ นามสกุล หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า (ดูได้จากใยแจ้งค่าไฟฟ้า) และหมายเลขบัตรประชาชน เมื่อเข้าไปลงทะเบียนก็กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน รวมถึงเลือกช่องทางการรับเงิน โดยมีให้เลือก 4 ช่องทาง ได้แก่
1.ผ่านพร้อมเพย์ (Prompt Pay)
2.บัญชีเงินฝากธนาคาร
3.บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือรับเงินสด และ
4.สำนักงานการไฟฟ้าทั่วประเทศ

4/9/2020 7:23:55 PM