กทม. ตัดสินใจเลิกด่วนพิเศษ "บีอาร์ที" หลังหมดสัญญา 1เม.ย. นี้ สุดทนขาดทุนปีละ 200 ล.

กทม. ตัดสินใจเลิกด่วนพิเศษ "บีอาร์ที" หลังหมดสัญญา 1เม.ย. นี้ สุดทนขาดทุนปีละ 200 ล.

กทม. ตัดสินใจเลิกด่วนพิเศษ "บีอาร์ที" หลังหมดสัญญา 1เม.ย. นี้ สุดทนขาดทุนปีละ 200 ล.

กทม. ตัดสินใจเลิกด่วนพิเศษ "บีอาร์ที" หลังหมดสัญญา 1เม.ย. นี้ สุดทนขาดทุนปีละ 200 ล.
 
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงภายหลังประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ว่า กทม.ตัดสินใจยกเลิกโครงการรถโดยสารด่วนพิเศษ หรือ บีอาร์ที หลังดำเนินการในระยะหนึ่งแล้วพบว่าต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายปีละ 200 ล้านบาท อีกทั้งพบว่าไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาจราจรที่แท้จริง แต่กลับเป็นการเพิ่มปัญหาให้ประชาชนในเส้นทางเดินรถ โดยเฉพาะบริเวณสถานีสาทร สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องจากบีอาร์ทีต้องใช้ผิวจราจร 1 เลน ร่วมกับรถยนต์ทั่วไป อีกทั้งยังมีรถบางคันเข้ามาวิ่งในเลนบีอาร์ทีจนทำให้รถโดยสารด่วนพิเศษใช้เวลาเดินทางไม่ต่างกับรถโดยสารธรรมดา
 
“นอกจากนี้ สำรวจพบว่า มีประชาชนใช้บริการทั้งสิ้นเฉลี่ยวันละ 25,000 คน แต่ส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนที่ได้รับสิทธิใช้บริการฟรีในช่วงเช้า และผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิลดหย่อนค่าโดยสาร ทำให้การให้บริการไม่ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย และขาดทุนสะสมต่อเนื่องปีละประมาณ 200 ล้านบาท ตั้งแต่เปิดใช้งาน อีกทั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือให้ กทม.ทบทวนโครงการ คณะกรรมการบริหารระบบขนส่งมวลชน กทม.จึงได้หารือร่วมกันเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ได้ข้อสรุปว่าจะยกเลิกโครงการเมื่อครบสัญญาในวันที่ 1 เมษายนนี้ เบื้องต้น
 
1.กทม.จะประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ให้กับผู้ใช้บริการ
2.ให้สำนักงานจราจรและขนส่ง กทม. ประสานกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นำรถประจำทางไปวิ่งแทนบีอาร์ที
3.คงสภาพสถานีบีอาร์ที โดยปรับเป็นป้ายรถประจำทาง
4.คืนผิวจราจรให้ประชาชนโดยรื้อถอนอุปกรณ์ที่อยู่บนพื้นผิวจราจรออกทั้งหมด”
 
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวและว่า ในเร็วๆ นี้จะมีการพิจารณายกเลิกทางจักรยานในถนนบางสายที่เข้าข่ายก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้จักรยานและประชาชนที่เดินเท้าด้วย
 
Credit: มติชนออนไลน์

2/6/2017 5:43:19 PM